**อาบน้ำ ควรอาบปีละ 1-2 ครั้ง
การอาบบ่อยเกินไปจะเป็นการชำระไขมันที่ปกคลุม บริเวณขน ทำให้ขนแห้งหยาบ และเกิดปัญหาผิวหนังได้ ในกรณีที่มีความจำเป็น ที่ไม่ สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการใช้ผ้าเช็ดเปียกได้ เช่น
เป็นโรคอุจจาระร่วง
หรือเลอะปัสสาวะ
แต่ให้ล้างเฉพาะจุดเท่านั้น
การอาบน้ำควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น แชมพูสำหรับเด็กทารก เนื่องจาก ผิวแพรี่ด็อกมีความบอบบาง
หากเลือกไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการระคายเคือง และเกิดปัญหาผิวหนังในระยะยาว
วิธีอาบน้ำ
เตรียมน้ำอุณหภูมิอุ่นกว่าร่างกายเล็กน้อย
ผสมแชมพูปริมาณเท่าเมล็ดถั่วใน อ่างที่มีปริมาณน้ำสูงประมาณ 1-2 นิ้ว
นำแพรี่ด็อกลงไปอาบอย่างระมัดระวัง อย่าให้ น้ำเข้าจมูก และอาบอย่างรวดเร็ว ล้างแชมพูให้สะอาด เช็ดด้วยผ้าให้แห้ง หรือเป่าด้วย เบาจนแห้งสนิท
การทำความสะอาดทั่วไปด้วยผ้า ใช้แผ่นทำความสะอาดชนิดที่ใช้เช็ดก้นเด็ก หรือแผ่น
เช็ดเปียกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
แต่ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
หมายเหตุ : ไม่ควรทำความสะอาดด้วยสเปรย์ต่างๆ เพราะส่วนผสมต่างๆในสเปรย์อาจ
เป็นอันตรายเมื่อแพรี่ด็อกทำความสะอาดด้วยการเลียหรือไซร้ขน อาจกินสารเคมีต่างๆ เข้าไป
**เล็บ
การตัดเล็บควรใช้กรรไกรตัดเล็บสัตว์โดยเฉพาะ
การตัดควรให้ทแยงมุม 45 องศา หรือขนานกับพื้นเวลาคว่ำปลายเล็บลง
ถ้าตัดแล้วมีคมควรตะไบเล็บ แบบถี่ตะไบให้
หมดคมด้วย ไม่ควรใช้กรรไกรตัดเล็บของคน
เพราะอาจทำให้เล็บแพรี่ด็อกฉีก แตก
ได้ง่าย
หากเล็บหลุด หรือเล็บหัก ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ถ้ามีเลือดออก มันจะไหลออกมาเยอะ มาก เพราะมันมีเส้นเลือดอยู่
สิ่งที่ควรทำ
1.
ห้ามใส่ยาทาภายนอก เช่น
แอลกอฮอล์ หรือเบทาดีน เพราะแพรี่ด็อกจะเลียและกิน เข้าไป อาจทำให้เกิดอันตราย
2.
สิ่งที่ควรมีติดบ้าน คือ
ผงห้ามเลือดสำหรับสัตว์
แป้งข้าวโพด (ยี่ห้อที่ปราศจาก สารเคมี)
น้ำเกลือล้างแผล
3.
นำนิ้วที่เลือดออก จุ่มผงห้ามเลือดหรือแป้งข้าวโพด แล้วเอาผ้าชุบน้ำเย็นจัดบิด หมาดๆ หรือห่อน้ำแข็ง ประคบที่นิ้วจนเลือดหยุดไหล แล้วล้างแผลด้วย น้ำเกลือ
นำผ้าเช็ดผงห้ามเลือดหรือแป้งข้าวโพดออกเท่าที่ทำได้ (ผู้ เลี้ยงควร
ระมัดระวังตัวเองด้วย)
4.
ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะกรณีเล็บหลุด อาจติดเชื้อได้ง่าย
5.
สังเกตอาการ หากเกิดอาการบวม แดง
อุณหภูมิสูง อาจเกิดการอักเสบ ควร พาพบแพทย์
**ฟัน
-
แพรี่ด็อกไม่มีฟันน้ำนม และมีฟันกรามด้านในอีก
-
ฟันหน้าซ้ายและขวา มีรากฟันแยกกันคนละซี่ มันจึงสามารถห่างออกจากกันได้
-
ฟันหน้าทั้งบนและล่างจะยาวตลอดเวลา แต่ฟันจะขัดกันบนล่างตลอด ทำให้ไม่ ยาวไปทิ่มเหงือกฝั่งตรงข้าม ฟันล่างบนจะยาวเท่าๆกัน ฟันซ้ายขวาต้องเสมอกัน
หากผิดปกติควรพาไปให้หมอดัดฟัน
-
ไม่ควรตัดฟัน เพราะถ้ารากฟันเกิดความเสียหาย
นั่นอาจหมายถึงชีวิต
ฟันหัก เมื่อแพรี่ด็อกฟันหัก แต่รากฟันไม่เสียหาย ฟันแพรี่ด็อกสามารถงอกทด แทนได้ตลอด
สิ่งที่ควรทำเมื่อฟันหัก
1.
หากพบฟันโยก ควรพาพบแพทย์
เพื่อตัดฟัน ไม่ควรปล่อยไว้
-ทำให้เกิดความเจ็บปวด
ได้มากกว่าที่หลุดไปแล้ว
-กินอาหารลำบาก
-อาจทำให้ฟันเก
เบี้ยว ผิดรูป
2. ไม่ควรดึงหรือตัดฟันออกเอง
3.
หักอาหารเม็ด
หรือหญ้าเป็นชิ้นพอดีคำ
เพื่อให้แพรี่ด็อกสามารถกินอาหารได้ง่าย ขึ้น
4. หากแพรี่ด็อกไม่สามารถกินอาหารได้
หรือกินได้น้อยกว่าเดิม
สามารถให้อาหาร เสริม Oxbow’s Critical
Care ผสมน้ำ ป้อนใส่สลิ้งให้แพรี่ด็อกได้
**ขน การผลัดขนและขนร่วง เกิดได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ดังนี้
1.
โภชนการ การได้รับอาหารที่ไม่เหมาะสม ทำให้ขนแห้ง
หยาบ หรือมันเกินไป ก็ ทำให้เกิดปัญหาขนร่วงได้เช่นกัน หรือโภชนาการไม่เหมาะสมทำให้เกิดการทิ้งขน
เพื่อนำสารอาหารไปใช้ในส่วนอื่นของร่างกายแทน และถ้าหากได้รับสารอาหารไม่เพียง
พอก็จะไม่มีการสร้างขนใหม่ขึ้นมาทดแทน
ทำให้เกิดปัญหาขนร่วงเรื้อรัง
-การให้อาหารที่มีไขมันมากเกินไป จำพวกถั่ว
เมล็ดพืช ทำให้มีไขมันอยู่ใต้ผิว
หนังมาก
-การเปลี่ยนอาหาร
จากอาหารที่ไม่ถูกโภชนาการ
ไปสู่อาหารที่สมบูรณ์ อาจเกิด
การผลัดขนที่ไม่ดีทิ้งไป เพื่อสร้างขนใหม่
2.
สภาพที่อยู่อาศัย แพรี่ด็อกมีพัฒนาการมาเพื่ออยู่ในสถานที่แห้ง ดังนั้นแพรี่ด็อก จึงไม่ถูกกับความชื้น หากสภาพที่อยู่อาศัยมีความร้อนและชื้นสูง การทำให้เกิด ปัญหาผิวหนัง นำมาสู่การผลัดขน หรือขนร่วง
-ความชื้นอาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค รา
แบคทีเรียที่ระคายเคืองผิว
-การที่ผิวหนังสัมผัสกับสิ่งระคายเคือง เช่น
ปัสสาวะ แผ่นรองกรง ไม้
ที่มีการ สะสมของเชื้อโรค
3.
ฤดูกาล
การผลัดขนประจำฤดูกาลขึ้นอยู่กับระดับความแตกต่างของอุณหภูมิที่
เปลี่ยนแปลง เช่น ร้อนไปหนาว
หนาวไปร้อน
ในองศาที่แตกต่างกันมากๆ
หากมีความเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้อย่างชัดเจน ก็อาจทำให้แพรี่ด็อกผลัดขนได้
ในประเทศไทยพบว่าอาจมีการผลัดขนได้มากขึ้น ปีละ 3 ครั้ง แต่หากผู้เลี้ยง รักษาสภาพแวดล้อมให้คงที่ อยู่ในสถานที่เลี้ยงที่เหมาะสม ได้รับอาหารที่ดี ก็
จะผลัดขนเพียงปีละครั้งเท่านั้น
4.
วัย ช่วงอายุก็เป็นปัจจัยหนึ่งสำหรับการผลัดขน เช่น
ขนวัยเด็ก 4 -12 สัปดาห์ ไปสู่ขนโต
5.
การอาบน้ำหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
การอาบน้ำทำให้ไขมันที่เคลือบผิวหนังและขนถูกชำระออกไป ซึ่งไขมันเหล่านี้ ถูกผลิตขึ้นในปริมาณที่จำกัด ทำให้ผิวแห้ง
ขนหยาบ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความ
สะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแม้แต่
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็อาจทำให้แพ้ได้
ดังนั้น
แนะนำให้อาบน้ำด้วยสบู่เด็ก ปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
หรือทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำเปล่าเฉพาะจุดและเช็ด ให้แห้ง
หมายเหตุ :
-ระยะเวลา ความรุนแรงในการผลัดขนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวข้างต้น
-ระยะเวลาการงอกของขนไม่แน่นอน ส่วนหัว
-ขนจะงอกกลับได้เร็วกว่าส่วนอื่น
ช่วงลำตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ
อาจกินเวลานาน 4-6 เดือน ในกรณีที่ขนร่วงหรือถูกโกนขน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวหนัง ยิ่งส่วนที่เป็น ผิวหนังบอบบาง จะยิ่งใช้เวลานานกว่า
-ผิวบริเวณที่ขนร่วง ลักษณะที่ปกติคือต้องมีสีดำ-เข้ม
-ถ้าผิวเป็นสีแดง อาจหมายถึงการอักเสบของผิวหนัง
ปัจจัยอื่นที่ทำให้ร่วง
นอกจากความชื้นและการผลัดขนนั้น อาจเกิดจากโรคผิวหนัง เช่น
เรื้อน ตุ่มแดง เชื้อรา
หรืออาการคัน บวม จากเห็บ
หมัด ไร ปัญหาเหล่านี้จะพบได้กับแพรี่ด็อกที่มี
กิจกรรมนอกบ้าน พบเจอสัตว์ชนิดอื่น เดินบนดินหรือหญ้า ซึ่งหากเลี้ยงอยู่ในบ้านจะ
ไม่ค่อยพบปัญหาเหล่านี้
แนวทางการรักษา(ขึ้นอยู่กับสาเหตุปัญหา)
-เพราะผลัดขนตามฤดูกาล
ผู้เลี้ยงควรรักษาสภาพแวดล้อมกับอุณหภูมิให้คงที่ระหว่าง การผลัดขน
-เพราะสารอาหารไม่เพียงพอ
ควรปรับโภชนาการและให้อาหารเสริมได้เหมาะสมตาม น้ำหนักและปัญหาที่พบ
-เพราะสถานที่เลี้ยง
ถ้าไม่มีแสงสว่าง
ร่างกายก็ไม่สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ อย่างสมบูรณ์ หรือมีความร้อนชื้นสูง/เลี้ยงร่วมกับสัตว์อื่น/อุปกรณ์ที่ใช้
-เพราะโรค แบคทีเรีย เห็บ
หมัด ไร เชื้อรา
ต้องรักษาให้หายก่อน
แล้วจึงเข้าสู่การฟื้น ฟูผิว
ถ้าน้องฟันหลุดออกมาจะงอกใหม่ได้ไหมคะ
ตอบลบ